Satan (ซาตาน หรือ เซตาน) เป็นความเชื่อที่เก่าแก่จนดูเหมือนว่าจะสืบเนื่องกันมาพร้อมๆ กับความเชื่อในเรื่องของพระเจ้าของชาวยิว (และคริสเตียน) ส่วนใหญ่ จะเชื่อในนิทานที่ว่า…เดิมทีซาตานเป็นเทวทูตระดับ Archangel (อัครเทพ – คือเป็นระดับหัวหน้าเทวดาทั้งหลาย) ที่ชื่อลูซิเฟอร์ (Lucifer) แต่เมื่อพระเจ้าประสงค์จะเนรมิตมนุษย์ตามรูปแบบของเทพ ก็ไม่ยอมรับใช้พระเจ้าต่อ เพราะความยะโสทะนงตัวจนไม่อาจจะยอมให้มนุษย์ที่ต่ำช้ามาใช้รูปร่างแบบเทพ
แต่ถ้าย้อนรอยในไบเบิ้ล ฉบับดั้งเดิม หรือการย้อนรอยไปหาคัมภีร์ของทาง ยูดาห์ (Judaism) แล้วจะไม่พบการระบุที่ชัดเจนเช่นนั้น แม้แต่ใน The Second Book of Enoch ที่มักจะได้รับการอ้างอิงว่าซาตานคือลูซิเฟอร์ ก็ไม่ได้มีการระบุชื่อ อย่างไรก็ตาม ในไบเบิ้ลก็มีการระบุถึงเทพที่อยากจะทำตัวโดดเด่นและท้าทายเป็นปรปักษ์กับพระเจ้าจนโดนพระเจ้าลงโทษไล่ออกจากสวรรค์
ตำนานผู้ถูกขับไล่จากสวรรค์
ลองมาดูการตีความเรื่องเทพสวรรค์โดนพระเจ้าโยนลงจากฟากฟ้า
How art thou fallen from heaven, O day-star, son of the morning! How art thou cut down to the ground, that didst cast lots over the nations!
Isaiah 14:12 – ฉบับ Jewish Publication Society 1917
How art thou fallen from heaven, O Lucifer, son of the morning! how art thou cut down to the ground, which didst weaken the nations!
Isaiah 14:12 – ฉบับ King James
ไบเบิ้ล ฉบับ คิง เจมส์ (King James) ดูจะเป็นฉบับแรกที่ระบุถึง “Lucifer” ในฉบับก่อนหน้านั้นจะใช้คำว่า Day-Star หรือ Morning Star ซึ่งในภาษาละตินคือ Lucifer แต่จริงๆ แล้ว Lucifer ในภาษาละตินโบราณนั้นไม่ใช่คำเฉพาะ หากแต่หมายรวมถึงปิศาจ แบบเดียวกับคำว่า devil หรือ demon
แต่ในไบเบิ้ล ฉบับ คิง เจมส์ ใช้คำว่า O Lucifer, Son of the Morning ดูจะเป็นการเจาะจงลงไปว่ากำลังพูดถึงบุคคลที่ชื่อ ลูซิเฟอร์
อ่านเพิ่มเติมที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Isaiah_14
Lucifer – Morning Star
And we have something more sure, the prophetic word, to which you will do well to pay attention as to a lamp shining in a dark place, until the day dawns and the morning star rises in your hearts,
2 Peter 1:19
ในคัมภีร์ไบเบิลตอนนี้ เป็นตอนที่ เปโตรอธิบายว่าพระเยซูเป็นดั่งดาวประกายพรึก ( Morning Star – ดาวพระศุกร์ที่เห็นในตอนรุ่งเช้า) ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้เรียกพระองค์ในวิวรณ์ 22:16 พระเยซูจะทรงนำความสว่างที่ยั่งยืนมาสู่โลกและในใจเราด้วย (อ้างอิง https://www.bibleref.com/2-Peter/1/2-Peter-1-19.html)
นี่คือการตีความว่า Morning Star rises in your hearts ดังนั้น Morning Star หรือ ลูซิเฟอร์ ก็ไม่น่าจะหมายถึงซาตาน
หรือว่า ลูซิเฟอร์ ไม่ได้หมายถึงคนใดคนหนึ่ง
อย่างที่เอ่ยถึงในตอนต้น Lucifer ในภาษาละตินโบราณนั้นไม่ใช่คำเฉพาะ ย้อนกลับไปในพิจารณาใน The Vulgate คัมภีร์ไบเบิ้ลในศตวรรษที่ ๕ จารึกด้วยภาษาละติน มีคำว่า Lucifer (หรือ Morning Star) ปรากฏอยู่ใน Book of Job อย่างเช่น
when the morning stars sang together and all the sons of God shouted for joy?
Job 38:7
คำว่า morning stars มี s แสดงว่ามากกว่า 1 และ sang together ยิ่งตอกย้ำว่ามากกว่า 1 ซึ่งถ้าเราถือว่า ลูซิเฟอร์ คือ ซาตาน น่าจะมีเพียง ๑ เดียวใช่หรือไม่?
และถ้า morning star หมายถึง ลูซิเฟอร์ จะอธิบายข้อความนี้ได้อย่างไร?
I, Jesus, have sent My angel to attest these things to you for the churches. I am the Root and the Offspring of David, the Bright Morning Star.
Revelation 22:16 ( ฉบับ Holman Christian)
I, Jesus, have sent My angel to testify to you these things for the churches I am the root and the descendant of David, the bright morning star.
Revelation 22:16 (ฉบับ New American Standard Bible
จากประโยคข้างต้นจะเห็นว่า Morning Star ไม่น่าจะมีความหมายเฉพาะถึงตัวบุคคล
ด้วยเหตุฉะนี้ ซาตาน ไม่น่าจะเป็น Lucifer อย่างในตำนานที่เชื่อถือกันอย่างกว้างขวาง
ถ้าอย่างนั้นแล้ว Satan เป็นใคร? หรือ เป็นอะไร?
คำว่า ซาตาน มาจากภาษาเฮบรู หมายถึง “ผู้อยู่ฝ่ายตรงข้าม” หรือ “ผู้เป็นปรปักษ์” ปรากฏชื่ออยู่ในคัมภีร์ พันธสัญญาเดิม Book of Job
Now there was a day when the sons of God came to present themselves before the LORD, and Satan came also among them.
Book of Job 1:6
ณ ที่นี้ จะเห็นว่า ซาตานเฝ้าพระยะโฮวาห์ท่ามกลาง The Sons of God นั่นก็คือสภาเทวทูต แต่คำว่า Satan ใน Book of Job ไม่ใช่ชื่อเฉพาะ แต่เป็นเทวทูตองค์หนึ่งในกลุ่มสภาเทวทูต ซึ่งจะต้องเป็นเทวทูตระดับสูง หรือ Archangels เมื่อลองไล่ชื่อของเทวทูตในกลุ่มสภานี้ มีเพียงไม่กี่ชื่อเท่านั้น คือ
Michael, Gabriel, Raphael, Uriel, Raguel, Zerachiel และ Remiel.
อีกเวอร์ชั่นหนึ่ง
Michael, Gabriel, Raphael, Uriel, Chamuel, Jophiel, และ Zadkiel.
หรืออีกเวอร์ชั่นหนึ่ง
Michael, Gabriel, Raphael, Uriel (Anael), Simiel (Samael), Oriphiel และ Zachariel
แต่ถ้าเป็นทางอิสลาม จะปรากฏชื่อเพียงแค่ Gabriel, Michael, Raphael และ Malak al-Maut ซึ่ง Malak al-Maut แปลว่า เทพแห่งความตาย Angel of Death แต่ก็ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับ Satan และถ้าเทียบกับเฮบรูแล้ว น่าจะเป็น Samael ซึ่งเป็น Angel of Death เหมือนกัน
หนึ่งในเทวทูตหรือไม่ใช่?
หรือว่า ซาตานไม่ได้เป็นหนึ่งในกลุ่ม Archangels หรือว่าพอโดนขับไล่ออกมาก็โดนลบชื่อไป?
ในเมื่อซาตาน มีความสำคัญมาก จึงควรจะมีชื่อปรากฏชัดแจ้ง และเมื่อลองไล่เลียงในคัมภีร์อื่นๆ ในศาสนายูดาห์ (Judaism) ก็มีการกล่าวถึงปิศาจตัวสำคัญที่พอจะเทียบเคียงกับ ซาตาน อยู่บ้างใน Book of Wisdom (หรือที่รู้จักในนาม Wisdom of Solomon) ได้ระบุปิศาจร้ายที่นำความตายมาสู่โลก ส่วนใน The Second Book of Enoch ก็มีการอ้างถึงกลุ่มเทพที่ตกสวรรค์กลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า Grigori (มาจากภาษากรีกแปลว่า The Watchers หรือผู้เฝ้ามอง) ที่มีหัวหน้าเป็นเจ้าชายชื่อ Satanail
“And those men answered me, ‘These are the Grigori, who turned aside from the Lord, 200 myriads, together with their prince Satanail. And similar to them are those who went down as prisoners in their train, who are in the second heaven, imprisoned in great darkness.'”
The Second Enoch 18: 3
Satanail มีชื่ออื่นๆ ที่คล้ายๆ กันปรากฏอยู่ซึ่งเป็นไปได้ว่าน่าจะหมายถึงสิ่งเดียวกัน คือ Satariel, Sataniel, (ที่คาดว่าจะเป็นสิ่งเดียวกันเพราะเทียบเคียงกับชื่อของ archangel อื่นๆ อย่าง Gabriel) แต่ถ้าอ่านใน The First Enoch จะระบุหัวหน้าของ Grigori ชื่อSemjâzâ
And Semjâzâ, who was their leader, said unto them: ‘I fear ye will not indeed agree to do this deed, and I alone shall have to pay the penalty of a great sin. And they all answered him and said: ‘Let us all swear an oath, and all bind ourselves by mutual imprecations not to abandon this plan but to do this thing.’ Then sware they all together and bound themselves by mutual imprecations upon it.
Enoch 6:3-5
Semjâzâ ลุ่มหลงในมนุษย์ผู้หญิง และได้ก่อกำเนิดลูกหลานที่เป็นเชื้อสายผสมระหว่างเทพกับมนุษย์ (เรียกว่า Nephilim) และต้องจารึกไว้เป็นกรณีพิเศษว่า Semjâzâ คือตัวการที่กระตุ้น ชักจูง หลอกลวงให้มนุษย์หลงผิด จนกระทั่งพระเจ้าทนไม่ได้ต้องบันดาลให้เกิดน้ำท่วมโลกเพื่อล้างความโสมมของมนุษย์ให้สิ้น
(ตำนานเรื่องน้ำท่วมโลกนี้ ปรากฏอยู่ในตำนานแทบทุกแห่งบนโลก…จนเกิดความรู้สึกว่า ในอดีตเมื่อนานมาแล้วน่าจะมีเหตุการณ์น้ำท่วมโลกจริงๆ)
นอกจาก Semjâzâ แล้ว ยังมีเทวทูตที่ร้ายกาจพอจะเทียบเคียงว่าเป็นซาตานได้อีกหนึ่งชื่อ คือ Mastema ปรากฏตัวอยู่ใน Book of Jubilees ผู้ขอเป็นเจ้าของวิญญาณบาปทั้งหลายจากการลงฑัณฑ์ของพระยะโฮวาห์
“When Mastema, the leader of the spirits, came, he said: ‘Lord creator, leave some of them before me; let them listen to me and do everything that I tell them, because if none of them is left for me I shall not be able to exercise the authority of my will among mankind. For they are meant for (the purposes of) destroying and misleading before my punishment because the evil of mankind is great.’ Then he said that a tenth of them should be left before him, while he would make nine parts descend to the place of judgment.”
Jubilees 10:8-9
นั่นอาจจะเป็นซาตานแต่ดั้งเดิม
แล้วทำไมคนถึงเชื่อว่า ลูซิเฟอร์ คือ ซาตาน?
หลายคนเชื่อว่า มหากาพย์ Paradise Lost ของมหากวี จอห์น มิลตัน (John Milton) ซึ่งบรรยายถึงการสู้รบอย่างงดงามของเหล่าเทพกับปิศาจโดยอาศัยเรื่องราวจาก Book of Revelations เป็นพื้นฐานเพียงเล็กน้อยนั้น เป็นต้นเหตุแห่งการขนานนามซาตานว่า ลูซิเฟอร์ เพราะในมหากาพย์นี้ เอ่ยอ้างชัดเจนว่า ซาตาน เดิมคือเทวทูต ลูซิเฟอร์ ผู้ไม่พอใจที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ให้มีรูปลักษณ์คล้ายเทพ จึงต่อต้าน ล่อหลอก อดัม และ อีฟ จนในที่สุดก็โดนขับไล่จากสวรรค์